การลดหินปูนในระบบอุตสาหกรรม มีการลดต้นทุนได้มาก จริงหรือไม่?

โดย: จิรกร [IP: 171.7.19.xxx]
เมื่อ: 2016-12-24 07:14:45
เคยมีคนเขาพูดกันประมาณนี้ไม่รู้ว่าจริงเทจแค่ไหน อยากได้คำอธิบาย
#1 โดย: Mr.sommai [IP: 171.7.19.xxx]
เมื่อ: 2016-12-24 08:12:55
ขอบคุณสำหรับคำถาม นั่นคือสิ่งที่น่าสนใจมาก
คำตอบ:ใช่ครับ รายละเอียดมีอย่างนี้.จะแยกเป็นข้อๆ

1.พูดก่อนเลยว่า หินปูน(ตะกรัน)คือตัวการที่ปิดกั้นการส่งผ่านความร้อน-เย็น ดังนั้นในระบบหม้อต้ม หรือระบบแลกเปลี่ยนความร้อนและการหล่อเย็น ระบบเหล่านี้ เป็นระบบที่ต้องใช้พลังงานสูงแต่เดิมอยู่แล้ว เช่น น้ำมันเตา ถ่านหิน หรือไฟฟ้า.สมุติว่าจากชั้นความหนาของตะกรันที่ 2มิลเมตรเกาะตามTUBEของบอยเลอร์(หม้อต้ม) จะเห็นว่าค่าถ่านหินหรือน้ำมัน จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15%เมื่อเทียบกับวันแรกที่เริ่มสตาร์ทเครื่อง เพราะเหตุผลนี้นั่นเอง จึงมีการควบคุมคุณภาพน้ำเข้าหม้อต้ม เพราะยิ่งมีค่าTDSสูงมากขึ้น ก็หมายถึงเพิ่มโอกาสของการเกิดตะกรัน ซึ่งก็ส่งผลถึงการสูญเสียพลังงานของประเทศชาติ เพิ่มขึ้นแน่นอน.

2.เรื่องของโอกาสแข่งขัน.เมื่อผู้ผลิตได้แพลนเวลาการผลิตไว้แล้วว่าต้องส่งมอบจำนวนยอดจองสินค้าภายใน1ไตรมาตรนั้นให้ครบตามจำนวน แต่ในระหว่างการเดินเครื่อง24ชั่วโมง/วัน นั้นก็ยังหวุดหวิด อยู่มาวันหนึ่งหลังจากทำงานได้แค่ 35วัน จำเป็นต้องหยุดไลน์ผลิตกระทันหัน เพราะในระบบเครื่องจักรเกิดการอุดตันอย่างหนักเนื่องจากตะกรันเพียงอย่างเดียว(แต่จริงๆแล้วจะไม่สามารถหยุดได้)บางระบบท่ออาจจะทำได้ด้วยการเคาะออกซึ่งก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง-หลายวัน ถ้าการจะใช้สารกัดกร่อนอาจต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายงานคุณภาพสินค้าก่อน แต่บางระบบที่ซับซ้อนอาจไม่สามารถแก้ไขอะไรได้มาก ถ้าไม่สร้างไลน์ผลิตสำรองเพิ่มขึ้นมาอีก1ไลน์ หรือไม่ก็สร้างระบบผลิตน้ำคุณภาพสูงๆเข้ามา เหตุการณืเช่นนี้จึงเกิดการเพิ่มทุน และอาจต้องยอมลดกำไรในตัวสินค้านั้นๆ แต่ถ้าไม่อยากเสียกำไร ก็ต้องเพิ่มราคาสินค้า นี่คือที่มาของคำว่า"โอกาสการแข่งขัน"

3.เรื่องของคุณผลิตภัณฑ์ ในผลิตภัณฑ์บางประเภทเช่นเครื่องดื่มที่มีความซ่า หรือบางผลิตภัณฑ์ที่เป็นมีค่าความเป็นกรด...ในส่วนผสมจำเป็นต้องมีสารบางชนิดที่มีค่าของความเป็นด่างเข้ามาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มรสชาติหรือเพื่อแก้ปัญหาค่าPHก็ตาม จะเห็นได้ว่าในท่อลำเลียงจะมีการอุดตันบ่อยมากๆ ในบางครั้งอาจพบหินปูนหลุดออกเจือปนไปกับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เหล่านี้ยังไม่มีการป้องกันได้อย่างถาวร ยังคงเป็นเรื่องที่หนักใจของฝ่ายคุณภาพสินค้า สิ่งที่ยังคงทำได้ดีที่สุดก็คือการหยุดสายการผลิตชั่วคราว เพื่อปรับปรุงคุณภาพการผลิต.

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 96,526