การเกิดตะกรันที่ควรรู้

#ตะกรันคืออะไร?

ตะกรันก็คือกลุ่มแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติ หรือมีความสามารถในการตกผลึกได้ด้วยตัวเองตามธรรมชาติ ถ้ากล่าวถึงที่มาอาจดูเหมือนยืดยาว แต่เราจะหาข้อสรุปและเปรียบเทียบให้เห็นกันแบบไกล้ตัวและง่ายๆ ...

พูดถึงสะสารทุกชนิดในโลกเรา ล้วนแต่มีพลังงานในตัวเองทั้งนั้นหรือพูดง่ายๆมันมีขั้วอย่างชัดเจน โดยอ้างถึงเมื่อรครั้งแรกเริ่มกำเนิดโลกใบนี้ โลกก็คือแม่เหล็กขนาดใหญ่นั่นเอง สังเกตว่านักวิทยาศาสตร์ มักจะพูดถึงแรงดึงดูดของโลก อะไรกันคือตัวดึงดูด..."แม่เหล็ก"ที่มีแค่ขั้วบวก-ขั้วลบเท่านั้น ดังนั้นสิ่งต่างๆที่เกิดอยู่บนนี้โลกย่อมต้องอยู่ในรูปของวัตถุที่มีขั้วบวก-ลบชัดเจนเช่นกัน ในเมื่อมีขั้วและนั่นหมายถึงต้องมีพลังงาน...แต่จะมาก-น้อยขึ้นอยู่กับสถานะที่มันอยู่ หรือบางชนิดอาจมีแค่เป็นขั้วที่พร้อมจะดูดซับพลังได้ทันที่ ถ้ามันอยู่ในที่และเวลาอันเหมาะสม รวมถึงกลุ่มแร่ธาตุที่เป็นตะกรัน."สะสารไดๆก็ตามแต่ถ้าได้รับ-หรือมีพลังงานเติมเต็มอิ่มก็จะสามารถแยกตัวเป็นอิสระได้"

1 . ตะกรัน ( LIME SCALE ) ส่วนมากที่พบอยู่ทั่วไปเกิดจากสารประกอบกลุ่มเกลือแคลเซียม (CaCo3 ) ซึ่งอยู่ในรูปไบคาร์บอร์เนต ซัลเฟต และฟอสเฟต ที่อยู่ในรูปของสารละลาย( Dissolve ) จะทําให้ คุณสมบัติของน้ำในเวลานั้นกลายเป็นน้ำกระด้าง (ค่าph สูงมากกว่า7)

#การเกิดตะกรัน

ตะกรัน(หินปูนที่แข็งตัวเป็นผลึก)ที่จะกล่าวถึงคือ ตะกรันจากแร่ธาตุในดินกลุ่มแคลเซี่ยมเป็นหลัก เพราะที่พบปัญหาส่วนใหญ่จะมาจากสารละลายจำพวกนี้กว่า95% ก่อนอื่นให้เราทราบก่อนว่า แคลเซี่ยมนั้น มีคุณสมบัติทางกายภาพที่ชัดเจนคือ การตกผลึก และทำได้เองอย่างรวดเร็ว จนเราไม่สามารถยับยั้งกระบวนการนี้ได้ ซึ่งก็มีวิธีเดียวที่จะไม่ให้มันเกิดการพอกตัวในอุปกรณ์ของเราได้ คือ การแยกออกจากน้ำเท่านั้น(หมายถึงเราต้องน้ำเอาน้ำที่มีปริมาณแคลเซี่ยมน้อย-หรือไม่มีเลยไปใช้งาน) ส่วนการใช้สารเคมีต่างๆ อาจจะได้ผลดีบ้าง มากน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพและราคา แต่สิ่งเหล่านี้เราถือว่าเป็นการขัดขวางกระบวนการของการเกิด ซึ่งถ้ามีการขัดขวางก็จะแต่การสูญเสีย(สิ้นเปลืองเงิน) เรียบเสมือนการต่อสู้หรือทำสงคราม ที่มีแต่ความยืดเยื้อ....ฉันไดฉันนั้น ไม่มีวันจบ

เข้าเรื่อง

เมื่อไดก็ตามที่เกิดสถานะความแตกต่างของอุณหภูมิ(เรียกตรงนี้ว่าสภาวะที่ไม่เป็นปกติ) โดยการส่งผ่านหรือถ่ายเท อุณหภูมิ จะมาจากแหล่งกำเนิดไดๆก็แล้วแต่ สำหรับหินปูนแล้วเราจะขอเรียกอุณหภุมินั้นเหล่านั้นว่า"พลังงาน" ฉนั้นการที่บริเวณที่กลุ่มแร่ธาตุที่กำลังจะเป็นหินปูนมีลอยปะปนอยู่ แล้วเกิดมีพลังงานขึ้นมา คือเท่ากับเริ่มเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเริ่มต้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการก่อตัวที่มันรอคอย. ยิ่งถ้าได้รับพลังงาน"มากจนเพียงพอ"โดยเร็วเท่าได หินปูนกลุ่มนั้นๆเริ่มจะเกิดการแยกตัวออกจากนํ้าเป็นอิสระมากขึ้น(จากการเป็นสารละลายในน้ำ ก็จะเริ่มก่อตัว ) จนเกิดเป็นสภาพมีความเข็มข้น "ระยะนี้ลักษณะคล้ายน้ำปูนใส" โดยมีความเป็นด่างและเกิดการรวมตัวกันเป็นพันธะ( Bonding )ให้ดูในภาพวงกลมที่2,3. จากโมเลกุลขนาดเล็กไปสู่ โมเลกุลใหญ่ สุดท้ายจะพบการตกผลึกรูปร่างต่างๆ โดยการรวมตัวกันเช่นนี้มักจะเกิดกับพื้นผิวเป็นส่วนใหญ่ที่สามารถแฝงตัวได้. แต่ที่พบได้ง่ายสุดจะอยู่ตามพื้นผิวที่ถ่ายเทความร้อนอย่างชัดเจนเช่น ก้นกาต้มนํ้า,ในหม้อไอนํ้าและใน Heat exchanger,แนวท่อ เกิดเป็นปัญหาหนักของผู้ประกอบการ,โรงงานอุตสาหกรรมเพราะปัญหาของตะกรันคือ จะเป็นฉนวนกั้นอุณหภูมิความร้อน-ความเย็นที่เรากำลังสร้างขึ้นด้วยเงินของเราเองในการเติมเชื้อเพลิง ปัญหาคือจะทําให้ระบบเครื่องจักรด้อยประสิทธิภาพลงทุกๆวัน ซึ่งถ้าเป็นระบบทำความเย็นจะทําให้สิ้นเปลืองพลังงาน ไฟฟ้ามากกว่าปกติตั้งแต่10% ถึง 50% ขึ้นอยู่กับชั้นความหนา....ไปต่อที่การป้องกันแบบถาวร คลิก

การเกิดตะกรัน

ภาพแสดงขั้นตอนการก่อตัวของตะกรัน

Visitors: 84,213